จากความห่างไกลบ้านเกิดของคนไทยที่เดินทางไปตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศ ทำให้เกิดความ ต้องการศูนย์รวมจิตใจโดยเฉพาะ “พระพุทธศาสนา” คนไทยเหล่านั้นจึงนิมนต์พระสงฆ์จากประเทศ ไทยรวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์พระพุทธศาสนาขึ้นในชุมชนคนไทยในต่างประเทศ อาทิ เมืองลอสแองเจลิส เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองนิวยอร์ก และเมืองชิคาโก้ โดยมีคณะกรรมการสงฆ์เป็นผู้ดูแล ทำให้คนไทย ได้มีโอกาสทำบุญและใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
เนื้อร้อง ศ. ประภาศรี สีหอำไพ / ทำนอง พันเอกชูชาติ พิทักษากร
การอบรมเชิงปฏิบัติการครูอาสาสมัครฯ รุ่นที่ 36 ปี 2562
วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 วัดพุทธดัลลัส มลรัฐเท็กซัสได้จัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ เช่น การไหว้พระสวดมนต์ การนั่งสมาธิ กิจกรรมการสื่อวิดิทัศน์วันมาฆบูชา การเวียนเทียน การตักบาตร และการส่งเสริมใส่ชุดไทย ซึ่งการจัดกิจกรรมได้สำเร็จไปได้ลุล่วงไปด้วยดี นักเรียนมีความรู้ในวันมาฆบูชา รำลึกถึงคุณศรีพระรัตนตรัย เจริญสติ และเรียนรู้วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ได้มีการจัดงานทำบุญวันมาฆบูชา ประจำปี 2563 ณ วัดวชิรธรรมปทีป ลองไอส์แลนด์ มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าร่วมงานทำบุญ ภายในงานมีกิจกรรมทางศาสนาต่างๆมากมาย เช่น การไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน ฟังเทศน์ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการแสดงจากโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ จำนวน 3 ชุดการแสดง ได้แก่ การบรรเลงดนตรีไทยและขับร้อง เพลงลาวดำเนินทราย, เพลงออเจ้าเอย ฝึกซ้อมโดย คุณครูชาคริสต์ กาทอง และ การแสดง ระบำสุโขทัย ฝึกซ้อมโดย คุณครูธนบัตร เอี่ยมสอาด ซึ่งเป็นที่สนใจและชื่นชมของผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 วัดซานฟรานธัมมารามได้จัดกิจกรรมวันมาฆบูชาขึ้น มีพุทธศาสนิกชน ผู้ปกครอง ครูอาสาและนักเรียนวัดซานฟรานเข้าร่วมพิธีการดังกล่าว มีกิจกรรมการทำบุญตักบาตร การเทศนา สวดมนต์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์และคติธรรมในวันมาฆบูชา การเวียนเทียน และการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 วัดสุทธาวาส ได้จัดกิจกรรมวันมาฆบูชา ซึ่งมีการออกร้านโรงทาน ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน สดับพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบรัตน์อุโบสถศาลา โดยคณะครูอาสาได้มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมและบันทึกภาพตลอดงาน ทั้งนี้ เด็กหญิงเอมี่ ลี ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสุทธาวาส เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ “มาฆปูรณี เสริมศรีชาติ”